พลิกวิธีรักษา “อัมพาต” ที่ขาให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง ด้วยอุปกรณ์รักษาอัมพาตจากสวิตเซอร์แลนด์ที่ใช้การอ่านคลื่นไฟฟ้าในสมองและส่งต่อไปยังขาที่อัมพาต

พลิกวิธีรักษา “อัมพาต” ที่ขาให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง ด้วยอุปกรณ์รักษาอัมพาตจากสวิตเซอร์แลนด์ที่ใช้การอ่านคลื่นไฟฟ้าในสมองและส่งต่อไปยังขาที่อัมพาต
วันนี้ (25 เม.ย 66) เวลา 11.00 น. ผศ.ดร.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์ หัวหน้าพรรคเปลี่ยนอนาคต นายพินโย รู้ธรรม ผู้อำนวยการพรรคเปลี่ยนอนาคต นางอุมาพร แพรประเสริฐ เลขาธิการพรรคเปลี่ยนอนาคต พร้อมสมาชิกพรรค ได้เดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมเป็นกำลังใจแก่มูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ โดยนายปรีดา ลิ้มนนทกุล เลขาธิการมูลนิธิปัญพัฒน์ และสมาชิกมูลนิธิปัญพัฒน์ ได้ยื่นหนังสือต่อเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องขอความเห็นเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติตามข้อกฎหมายเพื่อให้คนพิการเข้าถึงสิทธิตามกฎหมาย (กรณีคนที่มีความพิการแต่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนขอมีบัตรคนพิการได้กว่า 2.4 ล้านคนทั่วประเทศ) ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นหนึ่งในนโยบาย 6 ทุน 5 เปลี่ยน ของพรรคเปลี่ยนอนาคตที่ได้แถลงไว้
เมื่อวันที่ 9 เม.ย.66 พ.อ.รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีข่าวผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินทางมาแสดงตนในการตรวจเลือกทหารได้ โดยให้ผู้ปกครองนำเอกสารประวัติการป่วย และใบรับรองแพทย์มาแจ้งต่อคณะกรรมการในวันตรวจเลือกฯ ว่า
ภาคประชาสังคมจัดเวทีเสวนาประชาหารือ ตามแนวคิด “สังคมดี - การเมืองดี ต้องมีสตรีร่วมทาง 10 พรรคการเมือง ชูนโยบายรัฐสวัสดิการ เพิ่มเบี้ยกลุ่มเปราะบาง ผลักดัน กม.เท่าเทียมทางเพศ 15 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา สถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายเพื่อการพัฒนา สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี สถาบันพระปกเกล้า ขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทย (WeMove) UN Women สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และ Friedrich Ebert Stiftung (FES) ร่วมกันจัดเวทีเสวนาประชาหารือ เนื่องในวาระวันสตรีสากลและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในการเลือกตั้ง ตามแนวคิด “สังคมดี - การเมืองดี ต้องมีสตรีร่วมทาง : women Together Stand for Good Society & good Politicals” ณ ห้องประชุม Infinity Ballroom1 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ในเวทีเสวนาดังกล่าว ได้เปิดโอกาสให้ องค์กรภาคประชาสังคมนำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายต่อพรรคการเมือง ประกอบด้วย กลุ่มเด็ก เยาวชน ผู้หญิง แรงงานใน-นอกระบบแน และแรงงานข้ามชาติ คนพิการ อาสาสมัครผู้สูงอายุ กลุ่มหลากหลายทางเพศ กลุ่มเคลื่อนไหวรัฐสวัสดิการต่างๆ โดยสรุปดังนี้ กลุ่มสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า สุนี ไชยรส ยังยืนยันข้อเสนอสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า 3000 บาทตั้งแต่แรกเกิด สิทธิลาคลอด 180 วัน รวมถึงการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กทุกๆพื้นที่ให้เปิดปิดเหมาะสมกับเวลาทำงานของผู้ปกครอง ในขณะที่ผู้แทนกลุ่มเยาวชนจากพื้นที่สลัม ได้ขอให้พัฒนาพื้นที่ชุมชนแออัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของคนทั่วไป และขอเปิดโอกาสให้เด็กๆในพื้นที่ดังกล่าว ได้นำเสนอความสามารถ ส่วนสมาคมเพศวิถีขอให้มีนโยบายบรรจุเรื่องเพศศึกษาลงในหลักสูตรการศึกษาของเยาวชน ด้านแรงงานนอกระบบ ขอให้มีนโยบายปรับกฎหมายแรงงานให้สอดคล้องกับอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ รวมถึงปฏิรูประบบประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานทุกระดับ จากนั้น นักการเมืองหญิงจากพรรคการเมืองต่างๆ ได้นำเสนอนโยบายเพื่อให้สอดรับกับข้อเสนอของผู้แทนภาคประชาสังคม ซึ่งเกือบทุกพรรคจะมีนโยบายต่อกลุ่มเปราะบางคล้ายคลึงกัน ดังนี้
เลือกตั้ง 2566 จัดขึ้นวันที่ 14 พฤษภาคม แต่ผู้สูงอายุ คนพิการ จะใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 7 พฤษภาคม โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการลงคะแนน
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์ข้อความโดยแท็กชื่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมเล่าถึงปัญหาการเดินทางของ ‘น้ำพุ’ ผู้พิการขณะเดินทางไปสัมภาษณ์งาน โดยพบแท่งเหล็กขวางอยู่บนสะพาน
ชายพิการเดินไม่ได้วัย 59 ชาว อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ นำปลั๊กสามตาผูกติดกับไม้เท้าอะลูมิเนียม เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เพราะเคลื่อนไหวลำบาก สุดท้ายถูกไฟช็อตเสียชีวิตคาไม้เท้า แม่วัย 86 เห็นลูกนอนแน่นิ่งเอามือไปจับจะเรียกลูกถูกไฟดูด 3 ครั้ง ช่วงเย็นวันที่ 3 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุไฟฟ้าช็อตชายพิการทางการเคลื่อนไหว เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านไม่มีเลขที่ ในหมู่บ้านประคอง ต.เมืองยาง อ.ชำนิ จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยฯ และแพทย์เวร รพ.ชำนิ ร่วมตรวจสอบ
3 ธ.ค. 2565 เพจพรรคก้าวไกล รายงานว่าเนื่องในวันผู้พิการสากล (International Day of Disabled Persons) ที่สหประชาชาติกำหนดให้ตรงกับวันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี พรรคก้าวไกลและ Think Forward Center - ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต ตระหนักถึงความยากลำบากที่คนพิการทั่วประเทศต้องประสบ และตระหนักถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนพิการทุกคน เราจึงมุ่งมั่นออกแบบนโยบายเพื่อยกระดับสิทธิและสวัสดิการของคนพิการ ให้ทุกคนสามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี และเข้าถึงสิทธิสวัสดิการต่างๆ อย่างเท่าเทียมกัน
นายวงศ์สยาม กล่าวว่า วันนี้มีผู้ซื้อสิทธิขายเสียงอยู่มากมาย ประกอบกับสังคมไทยเป็นระบบอุปถัมภ์ จึงอยากเสนอให้ กกต. กำหนดให้มีค่าพาหนะสำหรับประชาชนที่เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในเบื้องต้นกำหนดให้คนละ 500 บาท ซึ่งจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาทเท่านั้น โดยคำนวณจากผู้สิทธิเลือกตั้งประมาณ 40 ล้านคน ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และยังช่วยให้ประชาชนเกิดแนวคิดที่จะตอบแทนคุณแผ่นดิน เพราะประชาชนได้รับเงินหลวง ไม่ใช่นักการเมือง ทำให้ประชาชนเลือกคนดี มีความรู้ เข้ามาทำหน้าที่ นายวงศ์สยาม ยังกล่าวว่า ทุกวันนี้นโยบายของรัฐบาลในการให้งบประมาณประชาชน 300-500 ต่อเดือนรวมถึงคนละครึ่ง ปีหนึ่งใช้งบประมาณเป็นแสนกว่าล้านบาท ในขณะที่การเลือกตั้งเกิดขึ้น 4 ปีครั้ง นอกจากนี้ในกฎหมายเลือกตั้งยังมีข้อห้ามไม่ให้นักการเมืองขนคนมาเลือกตั้ง แต่ในข้อเท็จจริงในต่างจังหวัดอยู่ในพื้นที่ห่างไกล จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งการเสนอเงื่อนไขนี้อย่างน้อยทำให้ประชาชนรู้สึกว่าประชาธิปไตยกินได้ กินได้ตั้งแต่การเลือกตั้งใช้สิทธิ แม้การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ แต่ข้อเท็จจริงมีค่าใช้จ่าย สังคมไทยจึงควรยอมรับความเป็นจริงเหล่านี้
คนพิการเตรียมเฮ! จุรินทร์เคาะแก้ระเบียบบอร์ดคนพิการ อำนวยความสะดวกคนพิการเข้าถึงสิทธิเพิ่มจำนวนผู้ดูแลคนพิการ 08 ธ.ค.2565 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2565 ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาแก้ไขระเบียบ กพช.เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ และเพิ่มการคุ้มครองสิทธิคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแล และสิทธิของผู้ดูแลคนพิการ ซึ่งที่ผ่านมานายจุรินทร์ได้สั่งการให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พิจารณาการลดขั้นตอนในการเข้าถึงสิทธิการขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ และการสนับสนุนการทำงานของผู้ดูแลคนพิการ